Thursday, 11 October 2018

Poor me VS Pity me ตอนที่ 2

Learn Real English;

Poor me VS Pity me ตอน 2


ตอนนี้ เรามาเจาะลึกแนวทางการสื่อสำนวน pity me กันดีกว่าครับ


ก่อนอื่นเลย pity ออกเสียงว่า "พิ ทิ่" ครับ คำนี้ถ้าแปลเป็นควาหมายไทย จะได้ว่า "เวทนา" หรือ "สังเวช" ครับ จากความหมายไทยนี้ ทำให้เราเข้าใจได้ว่า pity มีความหมายในด้าน "ลบ" นะครับ อย่างไรก็ตาม ภาษาอังกฤษเราจะใช้โครงสร้าง มาช่วยแบ่งแยกความแตกต่างครับ ว่าเวทนามาก หรือเวทนาน้อย .. เดี่ยวผมจะพยายามเล่าให้เห็นความแตกต่างครับ ใครที่ตั้งใจอ่านก็จะเข้าใจได้ครับ


เราพิจารณาประเภทของคำกันก่อนดีกว่าครับ pity นี้เป็นจะเป็น Verb หรือ Noun ก็ได้ครับ ถ้าใช้ใน "กริยา" เราใช้เพื่อแสดงความเวทนาต่อความโชคร้ายของผู้อื่น สะส่วนใหญ่ครับ ทำให้เราจะได้ยินการใช้ควบกับกรรมที่เป็นคนอื่น นะครับ เช่น .. pity you. หรือ pity him./her. นะครับ (แต่จะไมค่อยได้ยิน pity me นะครับ) โดยที่ ถ้าเอา "you" ซึ่งเป็น "คน" มาเป็นกรรมตรงแล้ว ความหมายจะแรงมาก แปลว่า "ฉันละเวทนาคุณจริงๆ"


ตัวอย่างเช่น


Anna) I can't understand why David lies to people all the time. It's so obvious that he's a phoney.
ฉันไม่เข้าใจจริงๆว่าทำไมเดวิดต้องโกหกคนอื่นตลอดเวลาเลย มันดูออกง่ายมากเลย ว่าเขาเป็นคนมือถือสาก ปากถือศีล


Jason) I know. I pity him.
ฉันก็ว่างั้นแหละ ฉันละเวทนาเขาจริงๆ


แต่ถ้าเราอยากแสดงความเวทนานี้ ด้วยคำว่า pity ให้ดูสงสาร เห็นใจ เข้าใจถึงความแย่ของเรื่องที่เกิด ให้เราใช้กริยา "feel" มาทำกรรม "pity" โดยตัวนี้ทำหน้าที่เป็นคำนาม (นับไม่ได้) แล้วต่อประโยคด้วย preposition ว่า for แล้วค่อยตามด้วย คำนาม ที่เป็น "คน" ครับ ก็จะฟังดูไม่รุณแรงเท่าไหร่ แนวเห็นใจดี ดีไหมละครับ?


ตัวอย่างเช่น


Anna) I had been waiting over 6 hours to attend the event. It turned out that it was full when I was about to enter in the end.
ฉันรอเป็นเวลากว่า 6 ชั่วโมงเพื่อเข้างาน ปรากฎว่า พอฉันจะได้เข้า ในงานมีคนเต็มแล้ว


Jason) Oh I feel tender pity for you.
โอ้ ฉันรู้สึกเวทนาสงสารคุณจังเลย


เมื่อเข้าใจตรงนี้แล้ว เราก็ใช้ได้อย่างเหมาะสมแล้วนะครับ


อีกประการหนึ่ง เมื่อ Pity เป็นคำนาม เราใช้คำในภาษาอังกฤษ ว่า self-pity เพื่ออธิบายถึงคนที่มีนิสัยมักจะเวทนาสงสารตัวเองอยู่ตลอดเวลาครับ คือจะมโนภาพไปเองว่าตัวเองด้อยกว่าคนอื่นครับ เป็นอาการนิสัยทางจิตอย่างหนึ่งนะครับ และไม่ใช่เรื่องดีด้วย


ตัวอย่างการใช้คำนี้ เช่น


Keith) My friend watches dramas on television religiously all day every day. And often times she says to me that she wishes she had other people's appearances.
เพื่อนฉันชอบดูละครในทีวีเป็นชีวิตจิตใจเลยนะ ดูทั้งวัน ทุกวัน และบ่อยครั้งนัก ที่เธอจะมาบอกฉันว่าเธอปราถนาอยากมีรูปร่างหน้าตาเหมือนคนอื่นบ้าง


James) That's what media does sometime. It makes you feel some self-pity and you're not being yourself.
นั่นแหละคือที่สื่อทำในบางครั้ง มันทำให้คุณรู้สึกเวทนาตัวเอง แล้วก็ไม่เป็นตัวของตัวเอง


ก็เป็นตัวอย่างที่หวังว่าจะทำให้เข้าใจความหมายของคำ pity นะคับ อย่าลืมว่า ตอนที่แล้ว คำว่า Poor me มีโครงสร้างไม่เหมือนกับ pity ของวันนี้เลยนะครับ จะสลับคำต่อคำ เพื่อใช้แทนกัน ไม่ได้ครับ


With best wishes,

Than x @ Bristol House


Bristol House Miracle of Knowledge
www.BristolHouse.net
Tel: 085-164-6105
Email: BristolHouseThailand@yahoo.com

No comments:

Post a Comment