Tuesday 16 October 2018

"ผิดหวัง" พูดอย่างไรในภาษาอังกฤษ

British Slang;

สวัสดีครับ วันนี้แทนมีสแลงภาษาอังกฤษมาฝากครับ แต่ก่อนอื่น มาดูวิธีการพูดแบบง่ายกันก่อน

หากเรา "ผิดหวัง" เรื่องใด เราสามารถพูดเป็นภาษาอังกฤษง่ายๆ ได้ว่า

I'm disappointed. (อ่านว่า"ไอมม์ ดิส สัพ พ้อย เท็ด")
ประธานเป็น "คน" อย่างนี้ ต้องทำให้เป็นรูปนี้ "disappointed" นะครับ อย่าลืมออกเสียง "เท็ด" พยางค์หลังสุดดังๆ ครับ

หรือเราอาจเลือกใช้ Phrasal verb ก็ได้ ฟังดูดี ถึงใจเหมือนกัน คำว่า

Let down โดยกลุ่มนี้เป็น Verb ครับ

เราอาจใส่ประโยคสมบูรณ์ ความหมายว่า "สิ่งนี้ทำให้ฉันผิดหวัง" ได้ว่า

It let me down. (สังเกตุว่า จะเอากรรม "me" ไปแทรกตรงกลางระหว่าง Phrasal Verb นะครับ เมื่อเป็นกรรมอย่างนี้)

คราวนี้ เราก็มีสำนวนหรือแสลงครับ เราใช้รูปว่า

Gutted (adjective) อ่านว่า "กัท เท็ท" ครับ

ตัวอย่างเช่น

I'm absolutely gutted.
ฉันผิดหวังมาก

หรือประธานของประโยคอาจเป็นสิ่งของอื่นๆ ก็ได้ครับ ที่เหมาะสม เช่น

The group will be gutted if anyone in the team leaves.
คนในกลุ่มจะผิดหวังมากแน่ถ้ามีใครสักคนในสมาชิกขอถอนตัวออกจากกลุ่ม

หรือ
I am gutted that I didn't get accepted to the university I wanted.
ฉันผิดหวังมากที่ฉันไม่ได้รับเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยที่ฉันต้องการ

สแลง Gutted นี้ มีความหมายเป็น Absolute Adjective อยู่แล้วนะครับ คือตัวคำนี้แปลได้ว่า "ผิดหวังอย่างมาก" ครับ ถ้าเราอยากจะขยาย ต้องเลือกใช้ adverb ที่เหมาะสมและถูกต้องครับ

ขอบคุณสำหรับการติดตามอ่านครับ

Lots of luv,

Than x @ Bristol House

Call 085-164-6105
Email Bristolhouse.schoolofenglish@gmail.com

You look ตอน 1

Learning Is Never Wasting;


สวัสดีครับ สบายดีไหมครับ? วันก่อนได้ไปเดินเล่นตามตลาดนัดกลางคืนสีลม มีฝรั่งเข้ามาซื้อของเพิ่มขึ้นเรื่อยๆครับ ยิ่งใกล้เทศกาลวันหยุดยาวคริสมาต์ปีใหม่อย่างนี้ ได้เห็นพร้อมกับได้ยินบทสนทนากันระหว่างพ่อค้าแม่ค้า ผมก็นึกถึงประเด็นมาเขียนเป็นความรู้ภาษาอังกฤษครับ


นี่เป็นเรื่องไวยากรณ์ภาษาขั้นพื้นฐาน ทั้งๆ ที่พ่อค้าแม่ค้าเค้าคงอาจไม่สนใจว่าต้องให้เป๊ะ ถูกต้องกันขนาดไหน แต่ด้วยเนื้อหามันง่ายดาย ใครๆ จึงเปลี่ยนแปลงให้ถูกต้องได้ ผมว่าจะเป็นประโยชน์ดีนะครับ และทุกคนที่ต้องการเก่งภาษาอังกฤษขั้นเทพ ต้องพิถี่ถิถันละเอียดในการใช้คำเล็กๆน้อยๆ เช่นนี้ขั้นแรกๆก่อนนะครับ


เหตุการณ์คือมีฝรั่งเดินเข้ามาจับสินค้า ทันใดทีนั้นพ่อค้าก็พูดเลยว่า
Good quality. You look. ผมแปลในใจผม ได้ว่า "คุณภาพดี คุณดูสิ"


ประโยค You look. นี้ ค่อนข้างแรงนะครับ เพราะโครงสร้างภาษาอังกฤษที่ขึ้นด้วย ประธาน "You" แล้วตามด้วย V/1 แบบนี้ ถือเป็นประโยค "คำสั่ง" ครับ ภาษาอังกฤษเราเรียก Imperative Sentence เราแปลเป็นไทย เหมือนบอกว่า "คุณจงทำ____" นี่คืออารมณ์ที่มันมาด้วยกับโครงสร้าง Imperative นี้ครับ นั่นคือ ภาษาอังกฤษเราเลือกใช้เฉพาะกับสถานการณ์ที่เหมาะสมกับ Imperative เช่น "บอกเส้นทาง" หรือ "แนะนำให้ทำอะไร เมื่อถูกถาม" นะครับ แต่ว่า การให้ลูกค้า "ลองดูลองชม" สินค้า ไม่เหมาะแน่ครับ


คนไทยก็เหลาภาษาให้สละสลวยได้ครับ จะได้ไม่ต้องจ้างคนต่างชาติมาขาย ซึ่งเห็นได้ว่ามีเยอะมาจากอินเดีย ปากีสถาน หน้าตาแถบนั้น พวกนี้พูดได้ทั้งภาษาเค้าเอง ภาษาอังกฤษ และก็ภาษาไทยด้วย เราคนไทยต้องรีบพัฒนาภาษาอังกฤษด่วนครับ ไม่งั้นอาจพลาดโอกาสงานขายใช้ภาษาอังกฤษดีๆ


เราก็ยังคงรักษาโครงสร้างประโยคคำสั่งไว้ โดยจะใช้ว่า


Have a look ก็ได้ครับ เพราะว่าการใช้ "have" มีความหมายว่า "ให้ผู้รับสารนี้" เขาสามารถเลือกได้ ว่าจะทำหรือไม่ครับ เราเพียงแนะนำให้เขาเลือกทำครับ ก็ฟังดูไพเราะครับ


ลักษณะคำพูดทักทายกันสั้นพวกนี้ หรือ Smalltalk เราจะได้เรียนรู้กันในคอร์สโทอิคที่เปิดสอนที่บริสตอลเฮ้าส์ครับ สอนสด โดยผมเอง แทน คอร์สเราจะตั้งชื่อให้กิ๊บเก๋ไว้ครับ แต่ยังคงมีเนื้อหาเน้นปูแกรมม่าให้แน่นแนวใหม่ เน้นเข้าใจลึกซึ้ง เสร็จแล้วเราทำข้อสอบโทอิคกันครับ เหมือนได้เรียน 2 คอร์สเลย สุดคุ้มแน่นอนครับ เนื้อหาก็ปรับปรุงใหม่ครับ ผู้เรียนประสบความสำเร็จในการเรียนกันมากมาย สนใจ ลงเรียนวันนี้ครับ ที่บริสตอลเฮ้าส์ ลาดกระบัง-สุวรรณภูมิ หรือ บริสตอลเฮ้าส์ บางมด -ประชาอุทิศ โทร 085-164-6105 ทางอินเตอร์ก็สะดวกที่ www.BristolHouse.net มีคำถามใด ขอเชิญโทรคุยกันเต็มที่เลยนะครับ


ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ แล้วเจอกันครับ


Best regards,

Than x @ Bristol House
Bristol House - Where Miracle Happens

You look ตอน 2

Learn Real English เรียนรู้ภาษาอังกฤษแท้ๆ;

"You look 2"

ความเดิมจากตอนที่แล้ว พูดวิธีการเชิญชวนแบบง่ายไปแล้วคือ Have a look นะครับ วันนี้ขอมาต่อด้วยประโยคที่แตกต่างออกไป ในความหมายนี้ ให้สละสลวยเหมือนเจ้าของภาษาครับ เราจะเชิญชวนให้ซื้อของเราเป็นภาษาอังกฤษอย่างไร


อันนี้ผมมีประสบการณ์ตรงครับ ตอนทำงานอยู่ที่อังกฤษผมเคยเป็นพนักงานขายสินค้าที่หลายคนมีครอบครองอยู่แล้ว เช่นพวกสัญญาอินเตอร์เน็ต สัญญาโทรศัพท์มือถือ รวมถึงสัญญาค่าไฟฟ้าและเครื่องอุปโภคบริโภคต่างๆ อยู่ทั่วเมืองฝั่งตะวันตกเฉียงใต้ของอังกฤษ (South West) เราต้องนั่งรถไฟไปหากลุ่มเป้าหมายที่ไกลออกไปจากเมือง Bristol ที่พักอยู่ครับ แม้ทางบริษัทจะพาเราไปเข้าคอร์สฝึกขาย มีคู่มือให้เลยเสร็จสับ ให้พูดตามหนังสือเลยครับ แต่เมื่อเราออกขายจริงๆ จะทำตัวเป็นหุ่นยนต์ทำงานตามหนังสือสั่งก็คงเบื่อตัวเองแย่ ผมเลยศึกษามองดูเพื่อนๆ ว่าเขาพูดอย่างไรกัน เพราะนี่เป็นสินค้าที่ลูกค้ามีอยู่แล้ว ทีมงานขายพวกเราหลายคน ต้องขายกันเต็มที่ ขายยากเหมือนสำนวนภาษาอังกฤษเขาว่า "sell ice to an Eskimo" นั่นคือ "ขายน้ำแข็งให้คนเอสกิโม" เลยละครับ นั่นคือต้องดึงทุกทักษะมาใช้ ร่วมทั้งผมได้เรียนรู้จากเพื่อนๆ ว่าประโยคแรกๆ ต้องพยายามรวบรวมใจความข้อมูลสินค้าที่ขาย และโปรโมชั่นต่างๆ ไว้ให้ทันทวงที แล้วเราสามารถทักลูกค้ารายใหม่ได้ ดังประโยคต่อไปนี้ครับ


Would you like to see them?
คุณอยากดูมันไหม?


Can I interest you to look at this item?
ฉันสามารถทำให้คุณสนใจดูสิ่งของพวกนี้ไหม?


Is this something I can interest you to buy?
นี่ใช่ไหม คือสิ่งที่ฉันพอจะทำให้คุณสนใจซื้อได้?


Is this something you might be interested in today?
ของนี้เป็นสิ่งที่คุณอาจจะสนใจชมวันนี้ไหม?


Why don't you have a look at this?
ทำไมไม่ลองชมสินค้านี้ดูหน่อยละ?


Would you be interested to have a look at this?
คุณอยากลองชมดูสินค้านี้ไหม?


เวลาแปลเป็นภาษาไทยตรงตามตัวแล้ว อาจฟังดูเวอร์ไปสักหน่อย แต่ผมว่าก็น่าใช้ดีนะครับ


นำไปใช้แล้วได้ผลอย่างไร เขียนข้อความฝากกันไว้นะครับ


ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ

ฝากแชร์ให้เพื่อนๆด้วยครับ


Lots of luv,

Than x @ Bristol House
Call 085-164-6105

เพลง Skyscraper แปลเป็นภาษาไทยงดงามน่าอ่าน เข้าใจและเรียนรู้แกรมม่าได้

World of Music;


ใกล้จะคริสมาสต์แล้ว ทีวีที่อังกฤษก็เริ่มมีกระแสตื่นเต้นว่า เพลงใดจะเป็น Christmas Number 1 แม้นว่าช่วงหลายปีที่ผ่านมา มันเริ่มเป็น routine เกินไป ที่ผู้ชนะรายการแข่งขันร้องเพลง X Factor จะปล่อยเพลงขึ้น chart อันดับ 1 ทำให้เพลงจากศิลปินอื่นถูกฟังมากขึ้น และต้านกระแสชนะเพลงจากรายการนี้ได้บ้าง แต่ปีที่แล้ว ผู้ร้อยเพลงชนะ ชื่อ Sam Bailey เป็นแม่ลูก 2 อายุ 35 ปี อาชีพเจ้าหน้าที่ควบคุมเรือนจำชายนี้ครับ ที่ชนะอันดับ 1 และเป็นเพลงฮิตช่วงคริสมาสต์ครับ ใครที่ชมรายการอยู่ตลอด ผมคาดว่าน่าจะรู้สึกหวังและอยากให้เธอชนะจริงๆ ครับ เพราะความสามารถเธอเยี่ยมจริงๆ


ให้ผมแปลเป็นเนื้อความภาษาไทย เนื้อเพลงนี้ กันนะครับ เพื่อได้เรียนรู้คำศัพท์บ้าง เรียนรู้วิธีการใช้อุปมาอุปมัยภาษาอังกฤษเล่าเรื่องในเพลงครับ นอกเหนือจากน้ำเสียงภาษาอังกฤษที่ Sam ร้องได้เพราะทีเดียว


Have a Lovely Christmas & Happy New Year 2015,

Than x @ Bristol House


====
"Skyscraper" Sam Bailley
http://youtu.be/kh2cMMFanB8

Skies are crying, I am watching
ท้องฝ้ากำลังร่ำไห้ ฉันก็กำลังมองดู

Catching tear drops in my hands
หยดน้ำตา ตกลงใส่มือฉัน

Only silence as it's ending
เฉพาะความเงียบเท่านั้นละ ที่เหลืออยู่ตอนจบ

Like we never had a chance
เหมือนกับว่าเราไม่ได้มีโอกาสเลย

Do you have to make me feel like
เธอจำเป็นต้องทำให้ฉันรู้สึก เหมือนว่า

There's nothing left of me?
ไม่มีอะไรเหลือสำหรับฉันเลย

[Chorus:]
You can take everything I have
เธอจะเอาทุกอย่างฉันมี ก็เอาไป

You can break everything I am
เธอจะพังทลายทุกสิ่งที่ฉันเป็น

Like I'm made of glass
เหมือนฉันเป็นเศษแก้ว (made of = ทำมาจากวัตถุดิบ)

Like I'm made of paper
เหมือนฉันเป็นชิ้นกระดาษ

Go on and try to tear me down
เอาเลย ลองทลายฉันให้ลง

I will be rising from the ground
ฉันจะลุกสูงขึ้นจากพื้นผิวดิน

Like a skyscraper
เหมือนฉันเป็นตึกสูงระฟ้า

Like a skyscraper
เหมือนฉันเป็นตึกสูงระฟ้า

[Verse 2:]
As the smoke clears, I awaken
ขณะที่ควันจาง ฉันก็ตื่นขึ้น

And untangle you from me
ทำให้เห็นความสว่างชัดเจนระหว่างฉันกับเธอมากขึ้น

Would it make you feel better
มันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นไหมละ

To watch me while I bleed?
ที่เห็นฉันเจ็บปวด (bleed = เลือดใหล)

All my windows still are broken
หน้าต่างของฉันทั่งหลายแตกพังลงก็จริง

But I'm standing on my feet
แต่ฉันยังยืนอยู่บนเท้าของฉันเอง

[Chorus:]
You can take everything I have
เธอจะเอาทุกอย่างฉันมี ก็เอาไป

You can break everything I am
เธอจะพังทลายทุกสิ่งที่ฉันเป็น

Like I'm made of glass
เหมือนฉันเป็นเศษแก้ว

Like I'm made of paper
เหมือนฉันเป็นชิ้นกระดาษ

Go on and try to tear me down
เอาเลย ลองทลายฉันให้ลง

I will be rising from the ground
ฉันจะลุกสูงขึ้นจากพื้นผิวดิน

Like a skyscraper
เหมือนฉันเป็นตึกสูงระฟ้า

Like a skyscraper
เหมือนฉันเป็นตึกสูงระฟ้า

[Bridge:]
Go run, run, run
เอาละ สู้ วิ่ง วิ่ง วิ่ง

I'm gonna stay right here,
ฉันจะอยู่ตรงนี้แหละ

Watch you disappear
มองดูเธอหายไป

Yeah, oh
เย้

Go run, run, run
สู้ วิ่ง วิ่ง วิ่ง

Yeah, it's a long way down
ใช่ มันเป็นหนทางไกลลงไป

But I am closer to the clouds up here
แต่ฉันใกล้กับเมฆข้างบนนี้มากกว่า

[Chorus:]
You can take everything I have
เธอจะเอาทุกอย่างฉันมี ก็เอาไป

You can break everything I am
เธอจะพังทลายทุกสิ่งที่ฉันเป็น

Like I'm made of glass
เหมือนฉันเป็นเศษแก้ว

Like I'm made of paper
เหมือนฉันเป็นชิ้นกระดาษ

Oh Oh
โอ โอ

Go on and try to tear me down
เอาเลย ลองทลายฉันให้ลง

I will be rising from the ground
ฉันจะลุกสูงขึ้นจากพื้นผิวดิน

Like a skyscraper
เหมือนฉันเป็นตึกสูงระฟ้า

Like a skyscraper
เหมือนฉันเป็นตึกสูงระฟ้า

Like a skyscraper
เหมือนฉันเป็นตึกสูงระฟ้า

"ทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่หน่อยเถอะขอร้อง"

Idiom & Expression สำบัด สำนวน;

สวัสดีปีใหม่ครับ ผมแทนครับ เที่ยววันหยุดปีใหม่กันสนุกมั้ยครับ?

เราทุกคนก็แก่ขึ้นอีกหนึ่งปีแล้ว ไม่ว่าจะรู้สึกเปลี่ยนแปลงหรือเหมือนเดิมอย่างไร แต่สภาพจิตใจเรา โดยธรรมชาติแล้ว ก็ต้องพัฒนาด้วยจริงไหมละครับ การปฏิบัติท่าทางก็ต้องโตขึ้น พอดีพอเหมาะเลย กับสำนวนภาษาอังกฤษวันนี้ ผมมีนำมาฝากครับ ง่ายๆ ใช้เมื่อเราต้องการบอกให้ใคร "ทำตัวเป็นผู้ใหญ่หน่อย" หรือ "อย่าทำตัวเป็นเด็กๆ" ภาษาอังกฤษเราสื่อด้วยประโยคคำสั่งนี้ได้ครับ ว่า


Act your age, not your shoes size.


ซึ่งหากเราแปลตามตัว ก็คาดเดาได้ไม่ยากครับ นั่นคือ "ทำตัวให้เหมาะสมกับคนอายุตัวเองหน่อย ไม่ใช่ทำตัวเหมือนคนอายุเท่ากับขนาดรองเท้าตัวเอง"


เพราะว่าขนาดรองเท้านี้ เมื่อซื้อรองเท้าในประเทศไทย ผมคุ้นเคยกับทั้งสองตัวเลขเลย คือผมใส่ไม่เบอร์ 43 ก็เบอร์ 10 อะไรสักเบอร์นี้ละครับ คนขายรองเท้าเขาก็หยิบขนาดนั้นๆที่ผมขอ ที่อังกฤษ อย่างไรก็ตาม จะชัดเจนมาก นั่นคือ ขนาดรองเท้าแบบ UK ครับ ซึ่งมักเป็นตราประทับในรองเท้าส่วนใหญ่ ทั้งเพศชายและหญิงจะมีตั้งแต่ 2.5 -14 สำหรับผู้ใหญ่ครับ สำหรับเด็กก็เล็กน้อยลงมาตามสัดส่วน..


เมื่อเรามองถึงอายุคน ตั้งแต่ 2 ถึง 14 ขวบนี้ ถือว่ายังเป็นเด็กครับ อยากได้อะไรแล้วไม่ได้ก็มักจะงอแง นี่น่าจะเป็นสำนวนนี้ครับ


ลองมาอ่านตัวอย่างการใช้กันครับ


John is 35 years old but his table manner is shameful. He needs to act his age, not his shoes size.
จอห์นอายุ 35 ปีแล้ว แต่มารยาทการกินข้าวบนโต๊ะอาหารของเขามันน่าอับอายมาก เขาจำต้องทำตัวให้เป็นผู้ใหญ่สมกับวัยเขาหน่อย ไม่ใช่ทำเป็นเด็กๆอายุเท่าขนาดรองเท้าเขาอย่างนี้


It's time for you to get serious and stop being silly. Grow up, pal! Act your age, not your shoe size! (Urban Dictionary)
ได้เวลาจริงจังและเลิกทำเป็นเด็กได้แล้ว โตได้แล้วเพื่อน ทำตัวให้เหมาะสมกับอายุ ไม่ใช่อายุเท่าขนาดรองเท้า (ตัวอย่างจากเว็ป Urban Dictionary)


น่าสนใจดีครับ นำไปใช้ได้จริงเลยครับ ภาษาอังกฤษเรามีสำนวนใช้กันเยอะมากครับ ยิ่งใครที่ต้องสื่อสารทุกวัน ผมแนะนำให้เลือกสรรสำนวนมาใช้ตลอดครับ แล้วบทสนทนาจะไปได้สวย


ขอบคุณสำหรับการติดตามครับ แล้วเจอกันครับ


Lots of luv,

Than x @ Bristol House
Call 085-164-6105

"ฉันไม่ได้ว่าอะไรคุณนะ"

Idiom & Expression สำบัด สำนวน;


ไม่ได้ว่าใครนะ


ในปัจจุบัน เมื่อเราต้องการพูดเรื่องรอบตัวเรา อาจระมัดระวังไปพาดพิงคนอื่น ภาษาไทยมีคำหนึ่ง เราได้ยินกันบ่อย ว่า "ก็ไม่ได้ว่าอะนะ" หรือ "ไม่ได้ว่าใครนะ" ทำให้ผมนึกถึงคำในภาษาอังกฤษขึ้นมาได้ครับ เราใช้มันเป็นสำนวนพูดเหมือนกันเลยครับ


"No offence" (ออกเสียงว่า "โน ออฟ เฟ้นส์")


โดยที่ offence เป็นคำนาม (noun) แปลว่า การละเมิด การทำให้รู้สึกขุ่นเขืองไม่พอใจ รวมถึงยังหมายถึง ความผิดทางอาญา ด้วยครับ


แน่นอนครับ เราใช้คำพูดนี้ no offence เพื่อบอกว่า สิ่งที่เราจะพูดต่อไปนี้ (หรือในบางกรณี ได้หลุดปากพูดไปแล้ว) เราไม่มีเจตนาจะไปดูถูกดูหมิ่นกลุ่มคนลักษณะใดเป็นพิเศษ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เราไม่สนใจว่า ผู้ฟังเรานั้นจะเป็นคนกลุ่มนั้นด้วยหรือเปล่า (คำว่า ไม่สนว่า ของผมนี่ ผมหมายถึง ไม่มีเจตนาคิดพาดพิง นะครับ)


ตัวอย่างเช่น

No offence. But I don't think they will win the race. You're not supporting this team, are you?
ไม่ได้ว่าอะนะ แต่ฉันว่าพวกเขาไม่ชนะการแข่งขันหรอก คุณไม่ได้สนับสนุนทีมนี้ ใช่ไหม?

Love, you need to take a shower. No offence,
ที่รัก เธอต้องอาบน้ำหน่อยนะ ไม่ได้ว่าอะนะ

ภาษาไทยกับภาษาอังกฤษก็มีอะไรคล้ายๆ กันนะครับ เรามาฝึกเก่งภาษาอังกฤษกันตั้งแต่วันนี้ เพื่อจะได้พัฒนาและแข่งขัน และอยู่ร่วมกัน กับระดับนานาชาติได้สบายยิ่งขึ้นครับ

ขอบคุณสำหรับการติดตาม ช่วยกด like และฝาก share ด้วยครับ เพจเราจะได้ปรากฎให้ทุกคนได้เห็นบ่อยขึ้นครับ

Best wishes,

Than x @ Bristol House
Call me 085-164-6105

Monday 15 October 2018

ภาษาอังกฤษแบบ Yoda สุดเจ๋ง

Bristol House's Cool Clip;

ขอบคุณที่ติดตามอ่านครับ อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ ได้อ่านด้วยนะครับ

ช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาได้หยุดหลายวัน ผมจึงมีเวลาดูภาพยนต์ Star War ทั้ง 6 Episodes ครับ ฉากต่างๆ ยังคงตื่นเต้นเช่นเคย เนื้อเรื่องที่เคยดูตอนเด็กๆ แล้วไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ รู้สึกคราวนี้ดูแล้วเข้าใจถึงบทพูดทุกอย่างเลยครับ รวมถึงเรื่องการบ้านการเมืองในอวกาศของดาวต่างๆ และเรื่องคำสอนต่างๆ ที่ทำให้การชมครั้งนี้ รู้สึกได้ความรู้และความฝัน มากกว่าอดีตมากทีเดียวครับ


ที่สำคัญ ผมชอบฟัง Yoda พูดมากเลยครับ ภาษาที่ Yoda พูดนี้ช่างน่าสนใจ เพราะเป็นภาษาอังกฤษเก่าครับ ผมเคยอ่านหนังสือภาษาอังกฤษเก่าๆบ้าง และลักษณะการเขียนจะไพเราะแบบเก่าๆ เช่นนี้ครับ


โดยส่วนใหญ่ Yoda จะโครงสร้างจะเป็น Object + Subject + Verb. ครับ ที่สำคัญมากกว่านั้น ภาษาแบบนี้ ผมว่ามันทำให้สมาธิเราดีขึ้นด้วย เพราะนอกจากต้องตั้งใจฟัง ยังต้องคอยคิดคู่ไปด้วย สนุกดีครับ


ตัวอย่างบทพูด ในคลิปนี้ จากภาพยนต์ครับ สำหรับท่านที่เคยดู คงจำได้ว่าฉากนี้ คือเมื่อ Yoda สอนวิชาให้ Luke ประมาณว่าให้สามารถทำให้ก้อนหินลอยได้โดยไม่ต้องจับด้วยมือ พอทำได้กับก้อนหินแล้ว Yoda จึงให้ Luke กู้ยานเดินทางที่จมน้ำอยู่ขึ้นมา Luke ก็ท้อแท้ว่าทำไม่ได้ บ่นว่าเพราะใหญ่เกินไป แล้วพวกเขาเริ่นสนทนากันอย่างนี้ครับ ผมขอแปลเป็นไทยไว้ให้เข้าใจเลย


Luke) I can't. It's too big.
ฉันทำไม่ได้ มันใหญ่เกินไป

Yoda) Size matter not. Look at me. Judge me by my size, do you?
ขนาดไม่สำคัญหรอก ดูอาจารย์สิ เจ้าตัดสินอาจารย์ด้วยขนาด ใช่ไหม?

And well you should not. For my ally is the Force. And the power of ally it is.
นั่นแหละ เจ้าไม่ควรตัดสินอย่างนั้น เพราะพันธมิตรของอาจารย์คือพลังอันแข็งแกร่ง และมันคือพลังอำนาจของพันธมิตรนั่นเอง

Life creates it, makes it grow. Its energy surrounds us, and binds us. Luminous being are we, not this crude matter.
ชีวิตสร้างสรรค์มัน ทำให้มันเติบโต พลังงานพวกมันอยู่รอบตัวเรา และรัดมัดพวกเราไว้ เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่เรืองแสง ไม่ใช่ตัวตนดิบหยาบอย่างนี้

You must feel the Force around you. Here, between you, me, the tree, rock, everywhere. Yes, even between the land and the ship.
เจ้าต้องพยายามรู้สึกถึงพลังรอบตัวเจ้าให้ได้ ที่นี่ ระว่างเจ้า กับอาจารย์ ต้นไม้ ก้อนหิน ทุกที่ ใช่ แม้กระทั่งระหว่างภาคพื้นดินกับเรือด้วย

Luke) You want the impossible.
อาจารย์พูดจะเอาเรื่องที่มันเป็นไปไม่ได้

...

Luke) I don't believe it.
ฉันไม่อยากจะเชื่อเลย

Yoda) That is why you fail.
นั่นแหละ เจ้าถึงล้มเหลว


ยอดเยี่ยมทีเดียวครับ Yoda นี้เป็น Jedi ผู้มีธรรมะคนสุดท้ายที่เหลือในสงคราม STAR WAR ก่อนที่ Luke จะเป็นคนต่อไปครับ รวมทั้งเนื้อความยังเป็นปรัชญาคำสอนอันล้ำค่า ใครที่ชื่นชอบภาพยนต์เรื่องนี้เหมือนกัน คงจำความสนุกได้นะครับ

Star Wars V: The Empire Strikes Back - "For my ally is the Force " (Force Theme, Yoda's Theme)
http://youtu.be/HMUKGTkiWik

All the best,

Than 
Call 085-164-6105
Than@BristolHouse.net